8 ตัวตรวจสอบไวยากรณ์ AI ที่ดีที่สุดสำหรับปี 2023
ปัญญาประดิษฐ์เป็นแนวหน้าของวิวัฒนาการการเขียน ช่วยสร้างข้อความที่เหมือนมนุษย์และตรวจสอบข้อผิดพลาด จึงทำให้เราสร้างเนื้อหาที่ไร้ที่ติ ความสำคัญของการเขียนที่ปราศจากข้อผิดพลาดไม่สามารถพูดเกินจริงได้ เนื่องจากสามารถเพิ่มผลกระทบที่งานเขียนของคุณมีต่อผู้ชมได้อย่างมาก โชคดีที่มีเครื่องมือตรวจสอบไวยากรณ์ที่ใช้ AI หลายตัวเพื่อช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่างานเขียนของคุณนั้นไร้ที่ติและขัดเกลา ในบทความนี้ เราจะให้ภาพรวมของตัวตรวจสอบไวยากรณ์ที่ดีที่สุดแปดตัวที่ใช้ AI เพื่อตรวจทานข้อผิดพลาดด้านไวยากรณ์ เครื่องหมายวรรคตอน และการสะกดคำในการเขียนของคุณ ดังนั้นอ่านต่อเพื่อรับข้อมูลเชิงลึกที่สมบูรณ์เกี่ยวกับแต่ละข้อ
| Pro Tips |
|---|
| 1. อ่านสิ่งเหล่านี้ คำที่ตรวจพบโดย AI 100 อันดับแรก เพื่อให้แน่ใจว่าเนื้อหาของคุณได้รับการปรับให้เหมาะสมสำหรับการตรวจจับ AI |
| 2. เครื่องมือถอดความ AI ที่ดีที่สุด 5 ชิ้นนี้ อาจจะสามารถสร้างการเขียนซ้ำได้แม่นยำและเหมาะสมกับบริบทมากขึ้น |
| 3. เครื่องมือตรวจจับเนื้อหา AI ยอดนิยม 10+ อันดับแรกเหล่านี้ นำเสนอคุณสมบัติต่างๆ เช่น การจดจำรูปภาพ การประมวลผลภาษาธรรมชาติ และการวิเคราะห์ความรู้สึก เพื่อช่วยให้องค์กรตรวจจับและจัดการเนื้อหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ |
ตารางเปรียบเทียบตัวตรวจสอบไวยากรณ์ AI ที่ดีที่สุดสำหรับปี 2023
| ตัวตรวจสอบไวยากรณ์ AI | ราคา | ข้อดี | จุดด้อย |
| ควิลบอท | ฟรี; รุ่นจ่ายเริ่มต้นที่ $8.33/เดือน | – บัญชีฟรีรวมถึงการเข้าถึง 2 โหมดการถอดความ, Summarizer, Grammar Checker, Co-Writer และ Citation Generator – ฟรี Google Chrome และ Google เอกสาร ส่วนขยาย. | – บัญชีฟรีประกอบด้วยโหมดการถอดความสองโหมดเท่านั้น และมีการจำกัดความยากที่ 150 คำที่สามารถถอดความได้ในครั้งเดียว – ไม่เสนอ GPT-3 ขับเคลื่อน การเขียน AI. |
| Grammarly | ฟรี; รุ่นจ่ายเริ่มต้นที่ $12/เดือน | - ใช้งานง่ายด้วยอินเทอร์เฟซผู้ใช้ที่สะอาดและเรียบง่าย – แม่นยำสูงและจับข้อผิดพลาดทางไวยากรณ์ เครื่องหมายวรรคตอน และการสะกดคำได้มากที่สุด – ให้คำแนะนำสำหรับการปรับปรุงโครงสร้างประโยค การเลือกใช้คำ และความสามารถในการอ่าน | – รุ่นฟรีมีคุณสมบัติจำกัด – ราคาอาจแพงเล็กน้อยสำหรับผู้ใช้บางคนที่ไม่ต้องการเขียนมากนักหรือมีงบประมาณจำกัด |
| ทรินก้า | ฟรี; รุ่นจ่ายเริ่มต้นที่ $6.67/เดือน | – มีเครื่องมือสำหรับการจัดการเอกสารและต้นฉบับที่จัดรูปแบบอัตโนมัติ – เสนอตัวตรวจสอบการอ้างอิงสำหรับการทำวิจัย | – แผนฟรีจำกัดจำนวนคำต่อเดือนที่ 10,000 คำ – แผนพรีเมียมให้เครดิตเพียงสองเดือนสำหรับไฟล์แก้ไขอัตโนมัติ |
| ขิง | ฟรี; รุ่นจ่ายเริ่มต้นที่ $4.99/เดือน | – นำเสนอการตรวจสอบไวยากรณ์และการสะกดคำ คำพ้องความหมาย และการใช้ประโยคใหม่ – ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้มากกว่า 8 ล้านคน | – เวอร์ชันฟรีมีข้อเสนอแนะที่จำกัด – ไม่มีตัวตรวจสอบการลอกเลียนแบบ |
| Hemingway App | ฟรี; รุ่นเดสก์ท็อปราคา $19.99 | – ให้คำแนะนำเกี่ยวกับรูปแบบการเขียน น้ำเสียง โครงสร้าง และการจัดรูปแบบ – เน้นประโยคที่ยาวและซับซ้อน กรรมวาจก และคำวิเศษณ์มากเกินไป | – ขาดคุณสมบัติมากมายเมื่อเทียบกับแอพตัวตรวจสอบไวยากรณ์อื่น ๆ – ไม่บันทึกงานของคุณหรือให้คำแนะนำเกี่ยวกับการแก้ไขประโยคที่ซับซ้อน |
| ProWritingAid | ฟรี; รุ่นจ่ายเริ่มต้นที่ $10/เดือน | – เสนอคำแนะนำสำหรับการปรับปรุงรูปแบบ ไวยากรณ์ และความสามารถในการอ่าน – ผสานรวมกับหลายแพลตฟอร์มและเครื่องมือ - ตัวเลือกราคาที่เหมาะสม | – อาจล้นหลามด้วยคำแนะนำมากเกินไปในคราวเดียว – อาจไม่ได้ให้ข้อเสนอแนะที่ถูกต้องเสมอไป |
| ต้นอ่อน | ฟรี; รุ่นจ่ายเริ่มต้นที่ $25/เดือน | - พจนานุกรมที่ปรับแต่งได้ – รองรับหลายภาษา – โมเดลที่สร้างไว้ล่วงหน้าสำหรับสาขาเฉพาะทาง | – ขาดคำแนะนำขั้นสูงเกี่ยวกับน้ำเสียงและความชัดเจน – ไม่มีตัวตรวจสอบการลอกเลียนแบบหรือนักแปล |
| LanguageTool | ฟรี; รุ่นจ่ายเริ่มต้นที่ $4.92/เดือน | – รองรับมากกว่า 30 ภาษา – เสนอการเข้าถึง API ของนักพัฒนาสำหรับบริษัทซอฟต์แวร์และสำนักพิมพ์ | - ขาดคุณสมบัติขั้นสูง – เวอร์ชั่นฟรีจำกัดไม่เกิน 20,000 ตัวอักษรต่อเช็ค ในขณะที่พรีเมี่ยมจำกัด 40,000 ตัวอักษรต่อเช็ค |
1. ควิลบอท
ควิลบอท เป็นเครื่องมือตรวจสอบไวยากรณ์และซอฟต์แวร์การเขียนที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่สมบูรณ์แบบสำหรับนักเรียนและนักเขียนที่ต้องการปรับปรุงการเขียน ด้วย Quillbot คุณสามารถกำจัดข้อผิดพลาดทางไวยากรณ์และการสะกดคำจากงานเขียนของคุณได้อย่างง่ายดาย เครื่องมือนี้พร้อมใช้งานทันทีที่คุณเข้าสู่หน้าเว็บ และคุณสามารถวางเนื้อหาของคุณเพื่อระบุและตั้งค่าสถานะข้อผิดพลาดโดยอัตโนมัติ เครื่องมือตรวจสอบไวยากรณ์ของ Quillbot ใช้งานได้ฟรี และคุณไม่จำเป็นต้องสร้างบัญชีเพื่อใช้งาน คุณยังสามารถดาวน์โหลด Quillbot's ส่วนขยายของ Chromeซึ่งเป็นบริการฟรีเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดใดๆ ที่คุณอาจทำเมื่อเขียนออนไลน์
นอกจากการตรวจสอบไวยากรณ์แล้ว Quillbot ยังมีแอพและความสามารถอื่นๆ เช่น ตัวสรุป ตัวสร้างการอ้างอิง ผู้เขียนร่วม ตัวตรวจสอบการลอกเลียนแบบ และผู้แปล ด้วยบัญชีฟรีตลอดไป คุณสามารถเข้าถึงโหมดการถอดความสองโหมด เครื่องมือสรุป เครื่องมือตรวจสอบไวยากรณ์ ผู้เขียนร่วม และเครื่องมือสร้างการอ้างอิง ตัวตรวจสอบไวยากรณ์ของ Quillbot นั้นเทียบได้กับ Grammarly และคุณจะได้รับการใช้งานไม่จำกัดด้วยบัญชีฟรี แต่ไม่ได้รับคำติชมมากนัก
จุดเด่น:
- บัญชีฟรีรวมถึงการเข้าถึงโหมดการถอดความสองโหมด, โปรแกรมสรุป, ตัวตรวจสอบไวยากรณ์, นักเขียนร่วม และเครื่องมือสร้างการอ้างอิง
- ใช้งานได้ไม่ จำกัด ด้วยบัญชีฟรี รับประกันคืนเงิน 100% เป็นเวลา 72 ชั่วโมง
- สมาชิกระดับ Pro จะเพลิดเพลินกับฟีเจอร์ขั้นสูงและขีดจำกัดที่เพิ่มขึ้น
- ส่วนขยาย Google Chrome และ Google เอกสารฟรี
จุดด้อย:
- บัญชีฟรีประกอบด้วยโหมดการถอดความสองโหมดเท่านั้น และมีการจำกัดความยากที่ 150 คำที่สามารถถอดความได้ในครั้งเดียว
- ไม่นำเสนอ GPT-3 ขับเคลื่อนการเขียนด้วย AI
- เอาต์พุตการถอดความที่สร้างขึ้นโดย Quillbot มักต้องการการแทรกแซงด้วยตนเองเพื่อจัดระเบียบก่อนใช้งาน
2 Grammarly
Grammarly เป็นแอพตรวจสอบไวยากรณ์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งช่วยให้นักเขียนสามารถระบุและแก้ไขข้อผิดพลาดทางไวยากรณ์ได้ เป็นหนึ่งในตัวตรวจสอบไวยากรณ์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายและมีผู้ใช้มากกว่า 30 ล้านคนทางออนไลน์ ส่วนขยายทำงานได้บนเกือบทุกแพลตฟอร์ม รวมถึง Chrome, Safari, Mozilla และ Microsoft Office เมื่อติดตั้งแล้ว ส่วนขยายจะไฮไลต์ข้อผิดพลาดด้านไวยากรณ์ การสะกด วรรณยุกต์ และลักษณะการเขียนทั้งหมดที่เกิดขึ้นในข้อความ นอกจากนี้ Grammarly ยังมีโปรแกรมแก้ไขข้อความเพื่อตรวจสอบเอกสารและให้คำแนะนำเกี่ยวกับน้ำเสียง รูปแบบ ความกระชับ และเครื่องหมายวรรคตอน
เวอร์ชันพรีเมียมของ Grammarly มีเครื่องมือตรวจสอบการลอกเลียนแบบ ทำให้เป็นเครื่องมือยอดนิยมสำหรับนักเรียน นักเขียน และแม้แต่อาจารย์ในวิทยาลัย Grammarly มีให้บริการเป็นรายเดือน รายไตรมาส และรายปี ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการพัฒนาทักษะการเขียน
จุดเด่น:
- ใช้งานง่ายด้วยอินเทอร์เฟซผู้ใช้ที่สะอาดและเรียบง่าย
- แม่นยำสูงและจับข้อผิดพลาดทางไวยากรณ์ เครื่องหมายวรรคตอน และการสะกดคำได้เกือบทั้งหมด
- ข้อเสนอแนะที่ดีเยี่ยมสำหรับการปรับปรุง
- การตั้งค่าที่ปรับแต่งได้
- ให้คำอธิบายสำหรับการแก้ไขซึ่งช่วยให้เรียนรู้จากข้อผิดพลาด
- มีหลายรูปแบบรวมถึงเครื่องมือตรวจสอบไวยากรณ์ออนไลน์บนเว็บ, เว็บ ส่วนขยายของเบราว์เซอร์, แอปเดสก์ท็อป ส่วนเสริมสำหรับ Microsoft Word และแป้นพิมพ์สำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
- ตรวจสอบการลอกเลียนแบบได้ไม่จำกัดด้วย Grammarly Premium
จุดด้อย:
- เวอร์ชันฟรีมีคุณสมบัติจำกัด
- การรวม Google เอกสารยังอยู่ในช่วงเบต้า คุณจะต้องคัดลอกและวางข้อความของคุณลงในแอปเพื่อรับประโยชน์สูงสุดจากการสมัครสมาชิกแบบพรีเมียม
- ราคาอาจแพงเล็กน้อยสำหรับผู้ใช้บางคนที่ไม่ต้องการเขียนมากนักหรือมีงบประมาณจำกัด
3. ทรินก้า
ทรินก้า เป็นตัวตรวจสอบไวยากรณ์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยผู้ใช้พัฒนาทักษะการเขียน มี API แก้ไขไฟล์ที่มีเครื่องมือครบครันสำหรับการเขียน ทำให้ผู้ใช้จัดการเอกสารและต้นฉบับที่จัดรูปแบบอัตโนมัติได้ง่ายขึ้น Trinka ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดทางไวยากรณ์สำหรับการเขียนทางเทคนิคและเชิงวิชาการ
ลักษณะเฉพาะอย่างหนึ่งของ Trinka คือคุณสมบัติแก้ไขไฟล์อัตโนมัติ ซึ่งไม่มีให้ในโปรแกรมตรวจสอบไวยากรณ์อื่นๆ Trinka ยังช่วยให้ผู้ใช้ปรับแต่งประสบการณ์การเขียนด้วยการสร้างพจนานุกรมที่ปรับแต่งได้เอง แผนพรีเมียม Trinka มีให้บริการในราคาย่อมเยาที่ 6.67 ดอลลาร์ต่อเดือน
จุดเด่น:
- ใช้งานง่ายด้วยอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย
- นำเสนอตัวตรวจสอบไวยากรณ์และการสะกดที่มีประสิทธิภาพ
- มีเครื่องมือสำหรับการจัดการเอกสารและต้นฉบับที่จัดรูปแบบอัตโนมัติ
- เสนอตัวตรวจสอบการอ้างอิงสำหรับการดำเนินการวิจัย
จุดด้อย:
- แผนฟรีมีขีดจำกัด 10,000 คำต่อเดือน
- แผนพรีเมียมให้เครดิตเพียงสองเดือนสำหรับไฟล์แก้ไขอัตโนมัติ
4 ขิง
ซอฟต์แวร์ขิง เป็นเครื่องมือตรวจสอบไวยากรณ์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งสามารถรวมเข้ากับแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชันต่างๆ รวมถึงเว็บเบราว์เซอร์ อุปกรณ์มือถือ และแอปพลิเคชันเดสก์ท็อป มีคุณลักษณะการตรวจสอบเอกสารเต็มรูปแบบ API และเซสชั่นฝึกซ้อมส่วนบุคคล ขิงขอเสนอ app มือถือ, Ginger Keyboard เพื่อตรวจจับข้อผิดพลาดในการสะกดในอีเมล ข้อความ โพสต์บนโซเชียลมีเดีย ฯลฯ เวอร์ชันฟรีจำกัดความยาวอยู่ที่ 350 อักขระ ในขณะที่แผนแบบชำระเงินเริ่มต้นที่ 4.99 ดอลลาร์ต่อเดือน Ginger มีเครื่องมือภาษาในตัวที่ให้บริการการแปลมากกว่า 40 ภาษา
จุดเด่น:
- เสนอการตรวจสอบไวยากรณ์และการสะกดคำ คำพ้องความหมาย และการใช้ประโยคใหม่
- รองรับหลายภาษา
- จัดเตรียมคุณสมบัติผู้ฝึกสอนส่วนบุคคลเพื่อพัฒนาทักษะการเขียน
- ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้มากกว่า 8 ล้านคน
จุดด้อย:
- เวอร์ชันฟรีให้ข้อเสนอแนะที่จำกัดเกี่ยวกับข้อผิดพลาด
- ไม่มีตัวตรวจสอบการคัดลอกผลงาน
| ที่แนะนำ: 8 ตัวสร้างชื่อธุรกิจ AI ที่ดีที่สุด |
5 Hemingway App
Hemingway App เป็นเครื่องมือตรวจสอบไวยากรณ์ออนไลน์ฟรีที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงงานเขียนของคุณและทำให้ชัดเจนเทียบเท่ากับผลงานของ Ernest Hemingway คุณลักษณะการตรวจสอบไวยากรณ์ขั้นพื้นฐานจะตรวจจับข้อผิดพลาดในการสะกด ไวยากรณ์ และรูปแบบการเขียน รวมถึงประโยคที่ยืดยาว การใช้เสียงแบบพาสซีฟมากเกินไป การใช้คำวิเศษณ์มากเกินไป และการใช้คำที่ซับซ้อน แอป Hemingway ใช้งานง่าย มีอินเทอร์เฟซที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้ และให้คำแนะนำเกี่ยวกับสไตล์การเขียน น้ำเสียง โครงสร้าง และการจัดรูปแบบ เวอร์ชันเดสก์ท็อปซึ่งมีการเข้าถึงแบบออฟไลน์ การรวม WordPress และโหมดมืด ราคา 19.99 ดอลลาร์
จุดเด่น:
- เครื่องมือตรวจสอบไวยากรณ์ออนไลน์ฟรีพร้อมการตรวจสอบไวยากรณ์พื้นฐานและการวิเคราะห์ความสามารถในการอ่าน
- เสนอคำแนะนำเกี่ยวกับรูปแบบการเขียน น้ำเสียง โครงสร้าง และการจัดรูปแบบ
- เน้นประโยคที่ยาวและซับซ้อน กรรมวาจก และคำวิเศษณ์มากเกินไป
- ใช้งานง่ายด้วยอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย
จุดด้อย:
- ขาดคุณสมบัติมากมายเมื่อเทียบกับแอพตัวตรวจสอบไวยากรณ์อื่น ๆ
- ไม่บันทึกงานของคุณหรือให้คำแนะนำเกี่ยวกับการแก้ไขประโยคที่ซับซ้อน
6. ProWritingAid
ProWritingAid เป็นเครื่องมือตรวจสอบไวยากรณ์ที่ใช้ AI ที่เชื่อถือได้ซึ่งมีรายงานการเขียนมากกว่า 20 รายการ คำแนะนำและคำอธิบายตามบริบท และข้อเสนอแนะเชิงลึกเกี่ยวกับข้อผิดพลาดในการสะกดคำและเครื่องหมายวรรคตอน ความไม่สอดคล้องกันของรูปแบบ และคำที่ไม่ต้องการ ท่ามกลางคุณสมบัติอื่นๆ เครื่องมือนี้มีอรรถาภิธานตามบริบทเพื่อค้นหาคำที่เหมาะสมและช่วยให้ผู้ใช้สร้างพจนานุกรมและสไตล์ไกด์ที่กำหนดเองได้
แม้ว่าการทดลองใช้ ProWritingAid ฟรีจะจำกัดที่ 500 คำ แต่ก็มีแผนการสมัครสมาชิกตลอดชีพในราคาย่อมเยา เครื่องมือนี้ทำงานร่วมกับหลายแพลตฟอร์ม รวมถึง MS Word/Outlook, Open Office, Google Docs และ Scrivener เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับทุกคนที่ต้องการพัฒนาทักษะการเขียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักเขียนมือใหม่ที่ไม่สามารถจ่ายเงินจ้างบรรณาธิการที่เป็นมนุษย์ได้
จุดเด่น:
- การวิเคราะห์การเขียนและข้อเสนอแนะที่ครอบคลุม
- เสนอคำแนะนำสำหรับการปรับปรุงรูปแบบ ไวยากรณ์ และความสามารถในการอ่าน
- ผสานรวมกับหลายแพลตฟอร์มและเครื่องมือ
- ตัวเลือกราคาที่เหมาะสม
จุดด้อย:
- อาจล้นหลามด้วยคำแนะนำมากเกินไปในคราวเดียว
- อาจไม่ได้ให้ข้อเสนอแนะที่ถูกต้องเสมอไป
- ฟีเจอร์บางอย่างจำกัดไว้สำหรับสมาชิกระดับพรีเมียมเท่านั้น
7. ต้นอ่อน
ตัวตรวจสอบไวยากรณ์ ต้นอ่อน ได้รับการพัฒนาโดยนักวิจัยจาก Google, Stanford University และ Berkeley University of California มันมี API ที่ปรับแต่งได้ซึ่งรองรับหลายตัว ภาษาและโมเดลที่สร้างไว้ล่วงหน้า สำหรับอุตสาหกรรมเฉพาะทาง เช่น การดูแลสุขภาพ ไวยากรณ์ การสะกดคำ และการแก้ไขสไตล์ของ Sapling ช่วยให้มั่นใจได้ว่าเนื้อหาจะปราศจากข้อผิดพลาดและเป็นมืออาชีพ คำแนะนำตามเวลาจริงของเครื่องมือ ตัวนับคำออนไลน์ และพจนานุกรมส่วนบุคคลที่ปรับแต่งได้ทำให้เครื่องมือนี้เป็นโซลูชันที่เหมาะสำหรับบุคคลและทีม Sapling เสนอแผนฟรี แผนมืออาชีพสำหรับบุคคลในราคา $25 ต่อเดือน และแผนองค์กรสำหรับทีม
จุดเด่น:
- ที่ปรับแต่งได้
- รองรับหลายภาษา
- โมเดลที่สร้างไว้ล่วงหน้าสำหรับสาขาเฉพาะทาง
จุดด้อย:
- ขาดคำแนะนำขั้นสูงเกี่ยวกับน้ำเสียงและความชัดเจน
- ไม่มีตัวตรวจสอบการลอกเลียนแบบหรือนักแปล
8. เครื่องมือภาษา
LanguageTool เป็นเครื่องมือตรวจสอบไวยากรณ์แบบโอเพ่นซอร์สที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งสามารถแก้ไขข้อผิดพลาดการสะกดและไวยากรณ์ในกว่า 30 ภาษา รวมถึงภาษาสเปน ฝรั่งเศส เยอรมัน และรัสเซีย ให้การปรับแต่งพจนานุกรมส่วนบุคคลและให้การเข้าถึง API ของนักพัฒนาซอฟต์แวร์ นอกจากฟังก์ชันการแก้ไขแล้ว ขณะนี้ LanguageTool ยังมีคุณลักษณะการใช้ถ้อยคำใหม่ซึ่งขับเคลื่อนโดย AI ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถลดความซับซ้อน ย่อ หรือทำให้ทั้งประโยคเป็นทางการได้ เครื่องมือนี้เรียบง่าย เวอร์ชันฟรีมีข้อจำกัดเกี่ยวกับจำนวนอักขระต่อการตรวจสอบ รุ่นพรีเมี่ยมมีให้บริการในราคา $19 ต่อเดือน เรียกเก็บเงินเป็นรายเดือน, $13 ต่อเดือน เรียกเก็บเงินเป็นรายไตรมาส ($39) หรือ $4.92 ต่อเดือน เรียกเก็บเงินเป็นรายปี ($59)
จุดเด่น:
- รองรับมากกว่าภาษา 30
- มีพจนานุกรมส่วนตัวที่สามารถปรับแต่งได้
- เสนอการเข้าถึง API ของนักพัฒนาสำหรับบริษัทซอฟต์แวร์และสำนักพิมพ์
จุดด้อย:
- ขาดคุณสมบัติขั้นสูงของตัวตรวจสอบไวยากรณ์อื่นๆ
- รุ่นฟรีจำกัดไม่เกิน 20,000 ตัวอักษรต่อการตรวจสอบ
- รุ่นพรีเมียมจำกัดไว้ที่ 40,000 ตัวอักษรต่อเช็ค
คำถามที่พบบ่อยs
การใช้ตัวตรวจสอบไวยากรณ์ที่ใช้ AI สามารถช่วยคุณปรับปรุงได้ คุณภาพงานเขียนของคุณ โดยการระบุและแก้ไขข้อผิดพลาดทางไวยากรณ์ การสะกดคำ และเครื่องหมายวรรคตอน นอกจากนี้ยังสามารถให้คำแนะนำในการปรับปรุงโครงสร้างประโยคและการเลือกใช้คำ ช่วยให้คุณสื่อสารแนวคิดของคุณได้ชัดเจนและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ตัวตรวจสอบไวยากรณ์ที่ใช้ AI สามารถช่วยคุณประหยัดเวลาและความพยายามโดยทำให้กระบวนการพิสูจน์อักษรและการแก้ไขเป็นไปโดยอัตโนมัติ ช่วยให้คุณมุ่งเน้นไปที่เนื้อหาของงานเขียนของคุณมากกว่ากลไกของงานเขียน
แม้ว่าตัวตรวจสอบไวยากรณ์ที่ใช้ AI เป็นเครื่องมืออันทรงพลังที่สามารถตรวจจับข้อผิดพลาดจำนวนมากและเสนอคำแนะนำในการปรับปรุง แต่ก็ไม่สามารถแทนที่ตัวตรวจพิสูจน์อักษรของมนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์ นักพิสูจน์อักษรที่เป็นมนุษย์จะเข้าใจบริบท โทนเสียง และรูปแบบได้ดีขึ้น และพวกเขาสามารถระบุข้อผิดพลาดที่เครื่องมือที่ใช้ AI อาจพลาดได้ อย่างไรก็ตาม การใช้เครื่องตรวจสอบไวยากรณ์บนพื้นฐาน AI ร่วมกับเครื่องพิสูจน์อักษรของมนุษย์สามารถปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายได้อย่างมาก
ตัวตรวจสอบไวยากรณ์ที่ใช้ AI ได้ปรับปรุงความแม่นยำอย่างมีนัยสำคัญในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และปัจจุบันหลายตัวสามารถตรวจจับข้อผิดพลาดด้านไวยากรณ์ การสะกดคำ และเครื่องหมายวรรคตอนได้หลากหลาย อย่างไรก็ตาม มันยังไม่สมบูรณ์และอาจยังพลาดข้อผิดพลาดบางอย่างหรือแนะนำการแก้ไขที่ไม่ถูกต้อง สิ่งสำคัญคือต้องใช้วิจารณญาณของคุณเองและตรวจทานงานเขียนของคุณด้วยตนเองหรือให้นักพิสูจน์อักษรทำเพื่อคุณ
เมื่อเลือกตัวตรวจสอบไวยากรณ์ที่ใช้ AI คุณสมบัติหลักบางอย่างที่ต้องมองหา ได้แก่ ความแม่นยำ ใช้งานง่าย ความเร็ว ตัวเลือกการปรับแต่ง คำแนะนำตามบริบท การผสานรวมกับซอฟต์แวร์การเขียน และการรองรับหลายภาษา คุณลักษณะที่เป็นประโยชน์อื่นๆ ได้แก่ การตรวจจับการคัดลอกผลงาน การตรวจจับน้ำเสียง และคำแนะนำสำหรับการปรับปรุงคำศัพท์และรูปแบบการเขียน ท้ายที่สุด คุณลักษณะที่คุณจัดลำดับความสำคัญจะขึ้นอยู่กับความต้องการและเป้าหมายเฉพาะของคุณในฐานะนักเขียน
สรุป
ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ทำให้ปัจจุบันมีตัวตรวจสอบไวยากรณ์ที่ใช้ AI มากมายเพื่อช่วยให้คุณสร้างเนื้อหาที่ปราศจากข้อผิดพลาด เครื่องมือตรวจสอบไวยากรณ์เหล่านี้สามารถเพิ่มคุณภาพและประสิทธิผลของงานเขียนของคุณได้อย่างมาก โดยการตรวจหาและแก้ไขข้อผิดพลาดทางไวยากรณ์และการสะกดคำผิด ตลอดจนให้คำแนะนำในการปรับปรุง แม้ว่าส่วนใหญ่จะเสนอเวอร์ชันฟรี การลงทุนในเวอร์ชันโปรหรือเวอร์ชันพรีเมียมจะช่วยให้คุณเข้าถึงฟีเจอร์ขั้นสูงได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม โปรดจำไว้ว่าตัวตรวจสอบไวยากรณ์ไม่สามารถใช้แทนคนพิสูจน์อักษรหรือบรรณาธิการได้ ใช้วิจารณญาณของคุณเองเสมอ และพิจารณาให้เจ้าหน้าที่ตรวจทานงานของคุณเป็นขั้นตอนสุดท้าย เมื่อคำนึงถึงข้อควรพิจารณาเหล่านี้แล้ว ให้เลือกตัวตรวจสอบไวยากรณ์ที่ตรงกับความต้องการของคุณมากที่สุด และเริ่มต้นวันนี้เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนของคุณ
อ่านเพิ่มเติม:
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ
สอดคล้องกับ แนวทางโครงการที่เชื่อถือได้โปรดทราบว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในหน้านี้ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายและไม่ควรตีความว่าเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย ภาษี การลงทุน การเงิน หรือรูปแบบอื่นใด สิ่งสำคัญคือต้องลงทุนเฉพาะในสิ่งที่คุณสามารถที่จะสูญเสียได้ และขอคำแนะนำทางการเงินที่เป็นอิสระหากคุณมีข้อสงสัยใดๆ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม เราขอแนะนำให้อ้างอิงข้อกำหนดและเงื่อนไขตลอดจนหน้าช่วยเหลือและสนับสนุนที่ผู้ออกหรือผู้ลงโฆษณาให้ไว้ MetaversePost มุ่งมั่นที่จะรายงานที่ถูกต้องและเป็นกลาง แต่สภาวะตลาดอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
เกี่ยวกับผู้เขียน
Agne เป็นนักข่าวที่รายงานข่าวเกี่ยวกับแนวโน้มล่าสุดและการพัฒนาใน metaverse, AI และ Web3 อุตสาหกรรมสำหรับ Metaverse Post. ความหลงใหลในการเล่าเรื่องของเธอทำให้เธอต้องสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญในสาขาเหล่านี้หลายครั้ง โดยพยายามค้นหาเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นและมีส่วนร่วมอยู่เสมอ แอกเน่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาวรรณคดีและมีพื้นฐานกว้างขวางในการเขียนเกี่ยวกับหัวข้อต่างๆ มากมาย รวมถึงการท่องเที่ยว ศิลปะ และวัฒนธรรม เธอยังได้อาสาเป็นบรรณาธิการให้กับองค์กรสิทธิสัตว์ ซึ่งเธอช่วยสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับปัญหาสวัสดิภาพสัตว์ ติดต่อเธอได้ที่ [ป้องกันอีเมล].
บทความอื่น ๆ
Agne เป็นนักข่าวที่รายงานข่าวเกี่ยวกับแนวโน้มล่าสุดและการพัฒนาใน metaverse, AI และ Web3 อุตสาหกรรมสำหรับ Metaverse Post. ความหลงใหลในการเล่าเรื่องของเธอทำให้เธอต้องสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญในสาขาเหล่านี้หลายครั้ง โดยพยายามค้นหาเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นและมีส่วนร่วมอยู่เสมอ แอกเน่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาวรรณคดีและมีพื้นฐานกว้างขวางในการเขียนเกี่ยวกับหัวข้อต่างๆ มากมาย รวมถึงการท่องเที่ยว ศิลปะ และวัฒนธรรม เธอยังได้อาสาเป็นบรรณาธิการให้กับองค์กรสิทธิสัตว์ ซึ่งเธอช่วยสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับปัญหาสวัสดิภาพสัตว์ ติดต่อเธอได้ที่ [ป้องกันอีเมล].
